วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สุดสลด !! พบทารกถูกทิ้งไว้ข้างอพาร์ตเมนต์ แต่เมื่อเห็นตัวเด็กทำเอาน้ำตาไหล ??

สุดสลด !! พบทารกถูกทิ้งไว้ข้างอพาร์ตเมนต์ แต่เมื่อเห็นตัวเด็กทำเอาน้ำตาไหล ??
 เวลา 04.57 น. วันที่ 2 ก.ค. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รับแจ้งมีพลเมืองดี พบเด็กทารกเพศหญิง อายุ 1 เดือน ถูกนำมาทิ้งไว้ข้างอพาร์ตเมนต์ ภายในซอยลาดกระบัง 14/2 โดยมีคนไปพบ ก่อนจะประสานแจ้งมา โดยเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ลาดกระบัง เข้าตรวจสอบดูแลเด็ก ในเบื้องต้นพบเด็กสุขภาพแข็งแรงดี แต่น่าเวทนาเพราะเด็กมีตุ่มตามตัวจากการถูกยุงกัดหลายแห่ง

ยกนิ้วให้เลย! "เวียร์" ชื่นชม! "ปุ๊กลุก" เป็นแบบอย่างของนักแสดงรุ่นใหม่



 
บทบาท "อีแพง" ในละครเรื่อง "เพื่อน แพง" เหมือนเป็นการแจ้งเกิดอีกครั้ง ให้กับนางเอกสาวผิวน้ำผึ้ง "ปุ๊กลุ๊ก ฝนทิทย์ วัชรตระกูล" ได้ดังเปรี้ยงปร้างสุดๆเลยก็ว่าได้ กับการแสดงที่เข้าถึงอารมณ์ ทำคนดูอิน และสงสารอีแพงกันทั้งเมือง แม้แต่พระเอกของเรื่องอย่าง "เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ" ยังออกปากชมว่าสาวปุ๊กลุ๊ก คือแบบอย่างของนักแสดงรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
              โดยหนุ่มเวียร์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสาวปุ๊กลุ๊กในนิตยสารฉบับหนึ่งไว้ว่า ... " ปุ๊กลุกเป็นคนที่พลังเยอะสุดๆ เป็นเด็กกระตือรือร้นมาก ตั้งใจกับงานจนผมต้องถามว่า ปุ๊ก ตั้งใจไปหรือเปล่าเนี้ย (หัวเราะ) ทุกฉากเขาต้องถ่ายวีดีโอไว้ดูว่าตัวเองเล่นเป็นยังไง เช็กเทปตลอด เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในการทำงาน ไม่ใช่เด็กที่อยากเป็นดาราเฉยๆ หรือแค่อยากออกทีวี ถือว่าเป็นต้นแบบของเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเป็นนักแสดงจริงๆ และก็ตั้งใจพัฒนาตัวเองในบทบาทที่ได้รับเสมอ แถมยังมีความก๋ากั่นอยู่ไม่น้อยทีเดียว (ยิ้ม) เอาใจผมตลอด นวดให้ผมทั้งวัน ก็ดีครับ น่ารักดี เพราะตามบทเราเป็นตัวละครที่รักกันมาตั้งแต่เด็ก เวลาเข้าฉากร่วมกันก็ทำงานได้ง่ายขึ้น...
              อยากบอกปุ๊กว่า เก็บพลังไว้บ้าง เล่นทั้งวันเลย แต่สุดท้ายเห็นแอบนอนตลอด เป็นเด็กน้อยต้องนอนกลางวัน เขาถือเป็นน้องที่น่ารักครับ จะคอยถามผมตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง เล่นดีหรือยัง ผมก็จะบอกว่าเล่นดีแล้ว ถ้าไม่ดีเขาไม่ให้ผ่านหรอก ปุ๊กจะกังวลตลอด พาลทำให้ผมกังวลตื่นเต้นไปด้วย หรืออย่างอะไรที่มันไม่น่าตื่นเต้น ปุ๊กก็สามารถทำให้ผมตื่นเต้นได้ "

ขอบคุณข้อมูลจาก http://pantip.com/topic/33864630

น่ารักอ่ะ!! พนักงาน "แมคโดนัลด์" ทำหนุ่มๆ สั่งอาหารไปใจสั่นไป!! (ชมภาพ)

สาวพนักงานแมคโดนัลด์ไต้หวัน น่ารัก ตากลม หน้าแบ๊ว ทำหนุ่มๆ สั่งอาหารไปใจสั่นไป
คนน่ารักมักถูกจับตามองและถูกถ่ายภาพลงอินเตอร์เน็ตแทบจะเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว อย่างเช่นสาวน้อยรายนี้ที่กำลังเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นพนักงงานของร้านแมคโดนัลด์ในประเทศไต้หวันรายนี้

โดยภาพนี้ถูกถ่ายโดยบล็อกเกอร์รายหนึ่งของเว็บไซต์ raindog.pixnet.net ซึ่งเขาได้นำภาพถ่ายของเธอลงมาเผยแพร่ให้ชาวเน็ตได้ชมในความน่ารักของเธอ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา ด้วยดวงตากลมโต หน้าใสแบ๊ว ผมยาว รูปร่างกระทัดรัด นี่เองที่ทำให้หนุ่มๆ ต่อแถวเข้าซื้อสินค้าอาหารในสาขานี้พร้อมกับรอยยิ้มที่เบิกบานมีความสุข

สุดระทึก !! ชาวบ้านรุมกระทืบ ผอ.โรงเรียน สาเหตุเพราะ....(มีคลิป)

สุดระทึก !! ชาวบ้านรุมกระทืบ ผอ.โรงเรียน สาเหตุเพราะ....(มีคลิป)
ชาวบ้านรุมตื้บผู้อำนวยการโรงเรียนเสียชีวิต ที่อินเดีย หลังเด็ก 2 คน ถูกพบเป็นศพในคลอง
 
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์จนเสียชีวิต โทษฐานละเลยจนทำให้เด็กนักเรียน 2 ราย จมน้ำตาย 
 
เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่จังหวัดนาลันดา รัฐพิหาร เด็กนักเรียน 2 ราย ได้แก่ ราวี กุมาร์ และซาการ์ กุมาร์ ได้จมน้ำเสียชีวิตปริศนาในคลอง ชาวบ้านจึงได้กล่าวโทษครูในโรงเรียนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของเด็กนักเรียนทั้ง 2 รายนี้ แม้ตำรวจจะเข้ามาสืบสวนเรื่องนี้และพบว่าไม่มีหลักฐานใดบ่งบอกว่าครูฆ่านักเรียนเลย แต่เรื่องราวกับลุกลามใหญ่โต เมื่อไป ๆ มา ๆ ชาวบ้านได้พากันโทษนายเทเวนธรา ปราสาด ซินฮา ผู้อำนวยการโรงเรียน ในฐานะผู้ที่ดูแลบริหารกิจการในโรงเรียนทุกอย่าง ว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเด็ก
 
หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ชาวบ้านก็ได้พากันบุกโรงเรียนและรุมเตะ ทุบตีนายซินฮาอย่างหนักหน่วงจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ยังจุดไฟเผารถ 2 คัน และห้องเรียน 2 ห้องด้วย นับเป็นวิธีการของศาลเตี้ยที่โหดเหี้ยมอีกคดีหนึ่งของอินเดีย 
 

มาไกลมาก ! "ซาร่า" ฝันเป็นจริง ขึ้นแท่น "นางเอกฮอลลีวู้ด" เต็มตัว!



  ต้องปรบมือให้ดังๆเลย สำหรับนักแสดงสาวลูกครึ่งไทย -อังกฤษ "ซาร่า มาลากุล เลน" หลังหันหลังให้วงการบันเทิงไทยเพื่อไปตามหาฝันไกลที่ฮอลลีวู้ดนานถึง 7 ปี  ในที่สุดฝันนั้นก็เป็นจริงแล้ว เพราะสาว"ซาร่า" ได้ขึ้นแท่นเป็นนางเอกฮอลลีวู้ดเต็มตัว ในภาพยนตร์แอคชั่นเรื่อง "Kickboxer  Vengeance"  ประกบนักแสดงชื่อดัง  "ฌองคล็อด แวนแดม"  โดยภาพยนต์เรื่องนี้ก็ได้ยกกองมาถ่ายทำที่เมืองไทยด้วย   ซึ่งสาว"ซาร่า" ก็ภูมิใจเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนถูกมองว่าเป็นนักแสดงไทยแล้วฮอลลีวูดมาจ้างถ่ายหนัง แต่ครั้งนี้ถูกยกเป็นนางเอกฮอลลีวูดเต็มตัวแล้วก็ดีใจมากๆ

IG saramalakul

บทความดีๆ!! เตือนสติ “อย่าให้อารมณ์มาบดบังความรักของคุณ” ช่วยกันแชร์!!

เช้าวันหนึ่ง.. ภรรยาบอกกับสามีว่า..
“วันนี้ ฉันจะกลับบ้านไปเยื่ยมแม่
จะไปค้างสักคืนหนึ่ง แม่ไม่ค่อยสบาย
คุณจะขับรถไปส่งฉันหน่อยได้ไหม
ฝนตกหนักแบบนี้ ไปรถโดยสารไม่สะดวกเลย”..
สามี.. ซึ่งหน้าตาบูดบึ้งมาตั้งแต่เช้า
ไม่ตอบภรรยา.. แต่กลับกระชากเสียงถามกลับไปว่า..
“เมื่อวาน เธอซื้อเสื้อใหม่มาใช่ไหม..
เธอรับปากฉันแล้วนะว่าจะไม่ใช่เงินฟุ่มเฟือย
เรายังต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งลูกเรียน
ค่าใช้จ่ายเยอะแยะ.. ทำไม..ไม่ช่วยกันประหยัด!!”
ภรรยา ..พูดออกมาเสียงเบาๆ อย่างคนรู้สึกผิดว่า
“ที่แท้..คุณโกรธเรื่องนี้นี่เอง”..
ภรรยา.. ก้มหน้าจัดเสื้อผ้าเงียบๆ
แล้วบอกสามีว่า..
“วันนี้ มีรถโดยสารเข้าเมืองแค่เที่ยวเดียว
ฉันคงต้องรีบไปแล้วหละ..
คุณไม่ต้องไปส่งก็ได้..”
แล้วเธอก็ออกบ้านไป โดยสามีไม่สนใจเลย
เพราะยังโกรธอยู่มาก..
ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไป..
สามีได้ยินเสียงเอะอะ บนถนน..
จึงออกไปดู แล้วจึงได้ยินผู้คนตะโกนกันว่า
ฝนที่ตกหนัก เซาะตลิ่ง
จนสะพานเข้าเมืองได้ขาดลง
มีรถเมล์คันหนึ่ง ตกลงไปในน้ำด้วย..
สามี..ได้ยินดังนั้น ตกใจมาก
กระโดดออกจากบ้านไปทันที
เมื่อไปถึงแม่น้ำ.. รถเมล์ที่ถูกเก็บกู้จากน้ำ
เหลือเพียงซากเหล็ก
สัมภาระกระเป๋าต่างๆ
ของผู้โดยสารกระจัดกระจาย
มีการหามร่างของผู้เสียชีวิต คนแล้วคนเล่า
ขึ้นมาจากแม่น้ำ..
ชายหนุ่ม เฝ้ามองหาภรรยา .. ก็ไม่พบ
ก็เสียใจเจียนสิ้นสติ..
เฝ้าถามหน่วยกู้ภัยที่ทำงานอยู่
ว่า “เห็นภรรยาผมบ้างไหม ๆๆๆ
เธอใส่เสื้อสีแดง กางเกงสีดำ”
ทุกคนส่ายหน้า… บอกว่าไม่เห็น.
เวลาผ่านไปจนเกือบเย็น.
กู้ภัย หยุดการทำงาน เพราะไม่มีผู้เสียชีวิต
ที่หาพบแล้ว
จึงบอกชายหนุ่มว่า.. “หักห้ามใจเถอะนะ
ภรรยาคุณ คงโดนน้ำพัดไปไกลแล้ว”.
ชายหนุ่มเดินกลับบ้าน เหมือนคนไม่มีวิญญาณ
ร้องไห้ไป คร่ำครวญไปตลอดทาง
ในใจของเขา เฝ้าแต่คร่ำครวญว่า
“ทำไมๆๆๆ เราไม่ขับรถไปส่งเธอนะ…
เราไปด่าเธอทำไมว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย
เสื้อตัวเดียว มันจะราคาเท่าไหร่กัน”
แต่เมื่อกลับถึงบ้าน คาดไม่ถึงว่า..
ภรรยากลับนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร
มีอาหารอยู่บนโต๊ะ..
ในมือเธอ มีเสื้อกันหนาวเก่าตัวหนึ่ง
ซึ่งเธอกำลัง เย็บซ่อมชายเสื้อที่รุ่ยอยู่..
“คุณไปไหนมาคะ .. “.. ภรรยายังพูดไม่ทันจบ
สามีก็ตรงเข้าไปกอดเธอจนแน่น..
“คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ..
วันนี้ ฉันมัวเอาเสื้อไปคืนที่ร้าน
เสียเวลาอ้อนวอนให้เขารับคืนไปมาก
เลยไปขึ้นรถเมล์ไม่ทัน..
อากาศจะหนาวแล้ว ฉันเลยรื้อเสื้อเก่ามาซ่อม
ก็พอใส่ได้อีกหลายปีนะคะ
ฉันนี่แย่จริงๆ ของเก่าก็ยังมี
ไปซื้อของใหม่มาทำไม”.
****เรื่องบางเรื่อง.. เราโกรธจนลืมไปว่า
มันไม่สำคัญเทียบเท่ากับ
“ความสุข” ของเราเลยนะ
เรื่องบางเรื่อง.. ไม่สำคัญเท่ากับ
“ความสุข” ของคนที่เรารัก..
เรามีเวลาในโลกนี้… จำกัด..
เวลาที่ใช้ร่วมกัน ….ยิ่งจำกัด..
อะไรที่ไม่สำคัญมากพอ
ก็อย่านำมาเป็นอารมณ์มากมายนักเลย
คลั่ง..กับเรื่องเล็กน้อยไปไย
ศิลปะแห่งปัญญา คือ
ความเข้าใจว่า.. ควรเครียดกับเรื่องใด
และควร ผ่อนปรน..ในเรื่องใด..
ที่มา facebook.com/ClipDedChanel

ตลาดนัดจตุจักรกลางคืน ตลาดขายส่งเสื้อผ้า ไปดูซิว่าจะขายอะไรดี

ได้ยินมานานแล้วว่าที่ตลาดนัดสวนจตุจักร  ในคืนวันศุกร์หรือเช้าวันเสาร์มีตลาดนัดตอนกลางคืน  ที่เป็นตลาดขายส่งสินค้า  โดยเฉพาะเสื้อผ้าแฟชั่น  ของแต่งตัวสำหรับผู้หญิง (กลุ่มลูกค้ามีอัตราการซื้อสูง) และสินค้าแฟชั่นอื่นๆ  แต่ผมยังไม่เคยไปเลยสักครั้ง  แต่เนื่องจากช่วงนี้มีหลายๆ คนเข้ามาอ่านบทความที่ผมเขียนไว้ในเว็บ ขายอะไรดีดอทคอม แห่งนี้และให้การตอบรับเป็นอย่างดี  ทำให้ผมมีกำลังใจอยากเขียนบทความดีๆ มานำเสนอให้ทุกคนได้อ่านกัน  เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกท่านได้เกิดไอเดียดีๆ ในการเริ่มต้นเปิดร้านขายของกันครับ  ผมจึงตัดสินใจลองไปสัมผัสกับ ตลาดนัดจตุจักรกลางคืน ดูสักครั้ง  ไปดูซิว่าเป็นตลาดแบบไหน  ที่บอกว่าขายส่งสินค้าราคาถูกนั้นเป็นความจริงหรือเปล่าและขายส่งอะไรบ้าง
            เริ่มจากเย็นวันศุกร์ผมนอนพักเอาแรงแต่หัววันตั้งแต่ 3 ทุ่ม  พอตื่นขึ้นมา 1.30 น.  (ยังดีที่ตื่นทันเพราะลืมตั้งนาฬิกาปลุก)  ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเรียกแท็กซี่ไปถึงตลาดจตุจักรก็ประมาณ 2.15 น. (ถนนในกรุงเทพฯ ตอนกลางคืนโล่งจริงๆ)  แท็กซี่พาไปส่งที่ทางเข้าตลาดนัดจตุจักรฝั่งถนนกำแพงเพชร 2 หรือถนนเส้นเดียวกับที่จะไปหมอชิต 2 นั่นเอง  พอเดินเข้าไปในภายในจตุจักรกลางคืน  ก็พบกับตลาดนัดที่ครึกครื้นมีคนเดินเลือกซื้อของอย่างคึกคักไม่เชื่อว่านี่คือเวลา ตี 2 กว่าๆ  มีร้านค้าตั้งเรียงรายตรงถนนเส้นหลักในตลาดนัดจตุจักร  ประมาณโครงการที่ 20 – 26 ประมาณนี้ครับ  ก็จะมีทั้งร้านขาประจำและร้านขาจรครับ  ขาประจำก็จะเป็นร้านตามล็อกถาวรของตลาดส่วนร้านขาจรก็ตั้งตรงริมถนน  หรือบางร้านก็วางขายกันหน้าร้านประจำที่ปิดอยู่คาดว่าคงเช่าหน้าร้านอีกทีนึง  และจะแขวนสินค้าตามประตูเหล็กของร้านเหล่านั้น
            ไม่รู้เป็นอะไรตื่นขึ้นมาตอนดึกๆแล้วมักจะรู้สึกหิว  (ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนผมหรือเปล่า)  จึงแวะนั่งแล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวกินก่อนลุยตลาดจตุจักรกลางคืน  ทำให้ผมมีเวลานั่งสังเกตว่า  ร้านที่ขายดีกว่าร้านอื่นๆ คือร้านขายอาหารหรือของกินนี่แหละครับ  ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะขายอะไรดีก็เอาร้านขายอาหารเป็นอีก 1 ตัวเลือกนะครับ  ความต้องการของลูกค้ามีตลอดเวลา  แม้กำไรต่อรายการขายจะน้อยแต่ขายได้ปริมาณเยอะก็กำไรเยอะเช่นกัน
1
            เมื่อท้องอิ่มและเริ่มมีแรงแล้วผมก็เริ่มเดินสำรวจตลาดทันที  พอเดินไปสักพักก็รู้สึกเดินไม่ค่อยสะดวกเลย  เพราะตรงทางเดินดันมีรถวิ่งมาเป็นระยะตลอดเวลา  แบบนี้ทำให้ไม่ได้ฟิวถนนคนเดินเลย  สังเกตดีๆจึงรู้ว่าที่รถวิ่งมาทางนี้เพราะเค้าจัดให้เป็นทางออกนั่นเอง (ไม่มีทางออกอื่นแล้วหรอ)  ใครไปเดินก็ระวังรถวิ่งทับเท้ากันนะครับ  และนอกจากจะต้องระวังรถวิ่งทับเท้าแล้ว  ยังต้องระวังล้อกระเป๋าลากที่พ่อค้าแม่ค้าที่เค้ามารับของไปขาย  และรถเข็นรับจ้างขนของด้วยนะครับ  ผมก็โดนล้อกระเป๋าลากไป 1 ที
            คนที่มาเดินตลาดนัดที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นและวัยทำงานต้นๆครับ  เน้นมาเดินซื้อของแบบขายปลีกมากกว่าซื้อราคาส่ง  เพราะเป็นผู้ซื้อมากกว่าเป็นผู้ขาย  ส่วนคนที่มาซื้อของราคาส่งเพื่อนำไปขายก็จะสังเกตง่ายๆคือมีกระเป๋าลากเพื่อใส่ของจำนวนมาก  ถ้าใครไม่มีก็จะถือของจำนวนมากเพราะซื้อแบบขายส่งมา  พอซื้อเสร็จก็จะจ้างรถเข็นไปส่งของข้างนอกให้
 ตลาดขายส่งจตุจักรกลางคืนเปิดกี่โมง
            จากการสอบถามคร่าวๆจากแม่ค้าในตลาดทราบว่าจะเปิดประมาณ เที่ยงคืน ตี 1  ร้านขาจรจะเริ่มเก็บร้านช่วงตี 3 กว่าๆใกล้ตี 4  เพราะช่วงนี้ร้านประจำของตลาดนัดจตุจักรกลางคืนจะเริ่มทยอยเปิดกันแล้ว  ส่วนร้านประจำที่เปิดขายส่งตอนกลางคืนก็จะเปิดขายต่อในช่วงกลางวันด้วย ไม่รู้ว่าตอนกลางวันจะมีราคาขายส่งหรือเปล่าไม่แน่ใจ  ถ้าใครจะไปจตุจักรกลางคืนควรจะไปตั้งแต่ประมาณ ตี 1 เพราะเป็นช่วงเปิดใหม่สินค้ายังมีเยอะอยู่  และได้เลือกสินค้าดีๆก่อนคนอื่นด้วย  ส่วนเรื่องรถถ้าไม่จำเป็นต้องขนของเยอะก็ควรนั่งแท็กซี่ไปจะดีกว่าเพราะหาที่จอดรถยากมาก  และจอดกลางค่ำกลางคืนก็อันตรายเดี๋ยวจะเดินตลาดไม่สนุกเพราะมัวแต่ห่วงรถ
 ตลาดขายส่งจตุจักรกลางคืนขายอะไรบ้าง
            สินค้าหลักๆ ที่ขายในตลาดนัดจตุจักรกลางคืน ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้าแฟชั่น  เหมาะสำหรับวัยรุ่นหนุ่มสาว  และสินค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิงอื่นๆ เช่น แว่นตา เข็มขัด รองเท้าแฟชั่น เป็นต้น  ถ้านึกภาพไม่ออกก็ลองนึกถึงสินค้าที่ขายตอนกลางวันนั่นแหละครับ  ส่วนสินค้าแปลกๆ อาจจะมีบ้างตามร้านขาจรที่มาตั้งขายริมถนนนั่นแหละครับ  ต้องลองไปสัมผัสดูสักครั้ง
 ตลาดขายส่งจตุจักรกลางคืนเมื่อเทียบกับตลาดขายส่งที่อื่น
            จตุจักรกลางคืน  เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดขายส่งอื่นๆที่ใกล้เคียงกัน เช่น ประตูน้ำ แพลตตินัม หรือโบ้เบ้ เป็นต้น
            จตุจักรกลางคืน  ถือว่าเป็นตลาดขายส่งขนาดไม่ใหญ่มาก  เมื่อเทียบกับประตูน้ำ แพลตตินัม หรือโบ้เบ้  ความหลากหลายของสินค้ามีน้อยกว่า  คนส่วนใหญ่ที่ไปซื้อของก็มักจะเป็นลูกค้าซื้อใช้มากกว่า  คนที่มารับไปขายต่อก็พอมีบ้างแต่ไม่เยอะเท่าคนมาซื้อแบบ 1-3 ชิ้น  แต่ก็อย่างว่าแหละครับคนซื้อไปขายต่อจะซื้อจำนวนมากกว่าทำให้ได้ยอดเยอะกว่า
            จตุจักรกลางคืน  ถ้าจะมีข้อที่ได้เปรียบทั้ง 3 ตลาดที่กล่าวไปก็คงจะมีเรื่องความใกล้กับสถานีขนส่งหมอชิต 2  พ่อค้าแม่ค้าจากต่างจังหวัดจะสะดวกนั่งรถมาถึงซักเที่ยงคืนหรือตี 1  เดินเลือกซื้อสินค้าเสร็จแล้วขึ้นรถกลับบ้านได้เวลาเปิดร้านพอดี  ถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้าในเขตกรุงเทพฯหรือพื้นที่ใกล้เคียงคงไม่พ้น ประตูน้ำ แพลตตินัม หรือโบ้เบ้  หรือแม้แต่กระทั่งตลาดสำเพ็ง  จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆก่อน ตลาดขายส่งจตุจักร
            ข้อได้เปรียบอีก 1 อย่างคือ  จตุจักรกลางคืนจะเปิดตอนช่วงดึก รถไม่ติด เดินทางสะดวก หากซื้อของจำนวนมากก็สามารถนำรถมาจอดภายในตลาดได้  เค้าจัดที่สำหรับจอดรถโดยเฉพาะ  แต่ถ้าใครยังไม่เคยไป  ผมอยากให้ลองไปเดินดูสักครั้ง  แม้จะไม่ได้ไปรับของไปขายต่อ  แต่ก็สามารถไปเดินดูสินค้าใหม่ๆ  ร้านค้าแปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็นเผื่อจะได้ไอเดียว่าจะขายอะไรดี เป็นอีกหนึ่ง แหล่งสินค้าขายส่ง ที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่งครับ

บทความโดย  www.ขายอะไรดี.com

ธุรกิจซื้อมาขายไปอะไรกำไรดี ตอน อยู่บ้านนอกก็มีธุรกิจเล็กๆได้


           บทความนี้ผมมีธุรกิจประเภทซื้อมาขายไปที่ได้กำไรดีมาแนะนำสำหรับคนที่ไม่รู้จะทำธุรกิจส่วนตัวอะไรดีครับ  เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ทำรายได้ให้กับผู้ประกอบการอย่างดีทีเดียว  เป็นธุรกิจที่มีพื้นที่การตลาดขนาดเล็กคือระดับอำเภอเท่านั้น  ธุรกิจที่ว่า คือ เป็นพ่อค้าคนกลางรับซื้อและขายเห็ด  ครับ  โดยรับซื้อเห็ดทุกประเภทที่มีขายตามท้องตลาด  ทั้งที่เพาะเลี้ยงเองและที่เก็บตามป่าชุมชนมาขายครับ  แต่จะเน้นที่เห็ดฟางเพราะมีตลาดรองรับตลอด และได้รับความนิยมจากลูกค้า  ที่สำคัญเกษตรกรแถวนั้นปลูกเห็ดฟางมากที่สุด
                ผู้ประกอบการธุรกิจซื้อมาขายไปคนนี้เป็นพี่เขยของแฟนผมเองครับ  อาศัยอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์  มาดูซิว่าวิธีการดำเนินธุรกิจของเขานั้นเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
                1  ขับรถไปซื้อเห็ดจากเกษตรกรตามหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่
                2  ขับรถขนเห็ดไปขายที่ตลาดให้กับแม่ค้าขายปลีก  คือ ขายส่งทีเดียวเลยนะครับไม่ต้องไปนั่งขาย
          แต่กว่าจะเริ่มต้นได้นี่ก็ไม่ได้ทำกันง่ายๆนะครับ  โดยเริ่มจากการไปลงทุนให้กับชาวบ้านที่ว่างงาน  ให้เค้ายืมเงินไปลงทุนเพาะเห็ดแล้วมาขายส่งให้  ผ่านการทำสัญญาใจกันว่าจะมาขายส่งให้เรา  พร้อมกับทยอยหักเงินต้นคืน  เป็นการสร้างโอกาสหารายได้ของชาวบ้านด้วยครับ  เค้าจะไปขายให้คนอื่นที่คิดว่าราคาดีกว่าก็ไม่ว่า  แต่ต้องใช้หนี้ทั้งหมดมาก่อนเพราะถือว่าผิดสัญญาใจกัน
คุณสมบัติของคนที่อยากเป็นพ่อค้าคนกลางแบบซื้อมาขายไป คือ
                1  มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี คือเป็นคนที่พูดเก่ง เข้ากับคนได้ง่าย คำพูดเป็นที่น่าเชื่อถือ  เพราะธุรกิจแบบนี้ลงทุนน้อยดังนั้นคู่แข่งจะเกิดได้ง่าย  หากไม่สามารถมัดใจคู่ค้าได้  ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำธุรกิจอย่างยั่งยืนได้
                2  มียานพาหนะในการขนเห็ด  นี่แหละครับที่เป็นเครื่องมือที่สำคัญ
                3  ขยัน ซื่อสัตย์ อดทนและขับรถเก่งครับ  เป็นคุณสมบัติที่ขาดเสียไม่ได้เลย
                4  มีเงินทุนในการรับซื้อเห็ดก่อนนำไปขายครับ  แต่ไม่จำเป็นต้องมีเยอะมากเพราะต้องหมุนเงินรายวันอยู่แล้วครับ  นอกเสียจากเราจะใช้ระบบเงินเชื่อหรือเครดิตครับ
                ธุรกิจนี้คนเดียวก็สามารถทำได้
รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วอยู่ที่ 1,000 บาท ขึ้นไปต่อวันครับ  หนึ่งเดือนก็ 30,000 บาท  ไม่น้อยเลยทีเดียว
                ปัจจุบันซื้อรถคันที่ 2 ซึ่งเป็นรถมือ 2 สภาพดี นำมาแทนคันเก่าที่เป็นรถมือ 8 สภาพพร้อมปลดระวางครับ  (ทุนเริ่มต้นธุรกิจน้อยจริงๆ)
          สำหรับรูปที่ผมนำมาลงประกอบบทความนี้  เป็นวันที่ผมไปเยี่ยมพี่เค้าที่บ้านพอดีครับ  มีชาวบ้านนำเอาเห็ดฟางมาขายให้ถึงบ้าน  เพราะถ้าชาวบ้านที่ปลูกเห็ดมาขายให้ถึงบ้านก็จะได้ราคาดีเพิ่มไปอีกครับ
                เป็นอย่างไรบ้างครับธุรกิจซื้อมาขายไปที่ผมเขียนให้ได้อ่านน่าสนใจรึเปล่าครับ  แม้จะอยู่บ้านนอกก็สามารถสร้างธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ  แต่ทำเงินได้ดี  ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องดิ้นรนเข้ามาทำงานในเมืองหลวงกันแล้วว่าไหมครับ
                ข้อความสะกิดใจจากพี่เค้า คือ “อยู่บ้านนอกหาเงินง่ายกว่าอยู่ในกรุงเทพเสียอีกนะ หากเราไม่ใช้จ่ายเกินตัวก็อยู่ได้สบาย”

Ragnarok Online เล่นฟรี คนเยอะมากจ้า

 

เกริ่นนำก่อนจ้า เซิร์ฟเวอร์เราเปิดให้บริการฟรีๆ เล่นกันฟรีๆไม่เสียตังจ้า
เกมนี้ เป็นเกมเดียวในประเทศไทยที่ยังมีคนเล่นสูงสุดตลอดกาลจ้า 

เรามาดูรายละเอียดกันนะ

CLASSIC - RO ยินดีให้บริการ

- เวปไซต์ : WWW.CLASSIC-RO.IN.TH
- FACEBOOK : https://www.facebook.com/ClassicRagnarokNew
- กลุ่มสำคัญมากต้องกดเข้า : https://www.facebook.com/groups/263627210414050/

- Infomation
Base & Job exp : 800
อัตราดรอปทั่วไป : 50
อัตราดรอปอุปกรณ์สวมใส่ : 50
อัตราการดรอปการ์ด : 50
อัตราการดรอป MVP : 1
Anti Bot และ Pro 100%

- Guild War
วันและเวลา : ทุกๆวันเวลา 21.00 - 22.00
เปิดบ้านทั้งหมด: 4หลัง
จำนวนสมาชิกที่รับได้:36

- กิจกรรมเพียบ และระบบต่างๆ ไม่เน้นเติมเงิน
Devil Square - ต้นตำหรับความสนุกได้ทั้ง Zeny และ Cash ไม่มี Server ไหนเหมือนเรา เราออกแบบเองทั้งหมด
Monster Hunter - ทุกครั้งที่ฆ่า Monster อะไรก็ได้ครบ 200 ตัวจะได้รับฟรี 200 Cash ทันที
Super Enchanter - ออฟชั้นขั้นเทพ ไม่เคยมีในเซิร์ฟเวอร์ไหนมาก่อน โดยจะทำให้คุณไม่เบื่อกับการเล่นแบบเดิมๆ โดยการนำ Item อื่นๆมาออฟชั้นให้เก่งขึ้นโดยจะออฟชั้น 1-2% สุ่มดังนี้ ATK MATK HP SP
Eazy Creator - สร้างไอเท็มหรือทำยาง่ายๆ มี NPC ให้พร้อมเลยจ้า
Rank Daily - เก็บ Ranked ทั้งฆ่า MVP และ Monster แจกรางวัลทุกคน
Synergy System - นอกเหนือจากเลเวลจะทำให้เก่งแล้ว Synergy ยังทำให้คุณเก่งขึ้นไปอีก ในระดับที่ไม่เวอร์แน่นอน
MVP - บอสใหม่ๆเพียบ ไม่ใช่แบบการ์ตูนเหมือนที่อื่น แต่เป็นการเอา Monster ของเกาหลีมาปรับให้เป็น MVP จ้า ::

 

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เกิดสุดๆ!! "ใหม่ ดาวิกา" กับลุคผมสั้น เปรี้ยวจี๊ด! สไตล์สาวมั่น!



ประชันความสวย แหวกบน โชว์ล่าง แต่งเซ็กซี่กันสุดฤทธิ์ สำหรับคนบันเทิงที่ได้ตบเท้าเข้าร่วมงานสยามดารา สตาร์ อวอร์ดส์ 2015 เมื่อค่ำคืนของวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ที่แหวกแนวสุดๆเห็นจะเป็นนางเอกสาววิก 7 สี อย่างสาว "ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่" ที่มาในชุดสูทสีขาว กางเกงแดงแสนเรียบง่าย พร้อมสวมวิกผมสั้นจุ๋ดสุดเก๋ไก๋ ออกมาในลุคสาวเปรี้ยว เฉี่ยว เท่ สุดมาดมั่น แถมไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า เพราะเธอยังคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สาขาละครโทรทัศน์ จากละครเรื่องนางชฎา ไปครองอีกด้วย เห็นไหมว่าไม่โป๊!..ก็ปังได้นะจ๊ะ!

ภาพจาก IG: davikah, davikah_forever

ไม่พลิกโผ! "ณเดชน์ -ใหม่" คว้านักแสดงนำชาย-หญิง ส่วน "อีแย้ม" คว้าร้ายได้ใจ แบบสวยๆ !




     ประกาศผลไปเรียบร้อยแล้ว  (30 มิ.ย.58) สำหรับงานพรมแดง  "สยามดารา สตาร์ อวอร์ด 2015" (Siamdara Stars Awards 2015)
 ที่จัดขึ้น ณ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี)  เพื่อเป็นเกียรติและกำลังใจมอบให้คนบันเทิงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายปี
มีเหล่าซุปตาร์ตบเท้าเดินพรมแดงมากมาย อาทิ ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า อุรัสยา, ใหม่ ดาวิกา, เกรซ กาญจน์เกล้า, เอมมี่ อมลวรรณ, ดีเจพุฒ พุฒิชัย, มิว นิษฐา, มิน พีชญา, เปิ้ล ไอรีน, กัปตัน ชลธร, เก๋ กันยกร, ลิเดีย แมทธิว, เพื่อน คณิน, กระต่าย ทรรศิกา, ฯล

สำหรับรางวัล สยามดารา สตาร์ อวอร์ดส์ 2015 มีรางวัลดังต่อไปนี้...
1. นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สาขาละครโทรทัศน์  ได้แก่ ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ จากละคร นางชฎา
2. นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สาขาละครโทรทัศน์ ได้แก่ ณเดชน์ คูกิมิยะ จากละคร ลมซ่อนรัก
3. นักแสดงสมทบยอดเยี่ยม สาขาละครโทรทัศน์ ได้แก่ มิว นิษฐา จิรยั่งยืน จากละคร ทรายสีเพลิง
4. บุคคลทรงคุณค่าวงการบันเทิง สาขาการแสดง ได้แก่ สุประวัติ ปัทมสูตร สาขาดนตรี ได้แก่ ผ่องศรี วรนุช
5. เพลงฮิตโดนใจ สาขาเพลงไทย-สากล ได้แก่ เพลง อยู่ตรงนี้นานกว่านี้ วง Getsunova
6. นักร้องกลุ่มยอดนิยม สาขาเพลงไทย-สากล ได้แก่ วง Cocktail (ค็อกเทล)
7. นักร้องไทย-สากลหญิงยอดนิยม ได้แก่ วี วิโอเลต วอเทียร์
8. นักร้องไทย-สากลชายยอดนิยม ได้แก่ พีท พีระ
9. เพลงลูกทุ่งยอดนิยม ได้แก่ เพลง น้องมีผัวแล้ว ศิลปิน ดอกอ้อ ทุ่งทอง
10. เพลงลูกทุ่งยอดเยี่ยม ได้แก่ เพลง กระเป๋าสมปอง ศิลปิน จ่อย ไมค์ทองคำ
 
11. เพลงลูกทุ่งเพื่อชีวิตยอดเยี่ยม ได้แก่ เพลง คนมีเมียน้อย ศิลปิน หงา คาราวาน
12. นักร้องลูกทุ่งหญิงยอดเยี่ยม ได้แก่ เย็นจิตร พรเทวี จากเพลง ลบได้แต่เบอร์
13. นักร้องลูกทุ่งชายยอดเยี่ยม ได้แก่ ไมค์ ภิรมย์พร จากเพลง นางกวักมหาเสน่ห์
14. นักร้องลูกทุ่งหญิงยอดนิยม ได้แก่ ศิริพร อำไพพงษ์ จากเพลง ปริญญาเจ็บ
15. นักร้องลูกทุ่งชายยอดนิยม ได้แก่ ไผ่ พงศธร จากเพลง ไม่มีข้อแม้ตั้งแต่เริ่มต้น
16. ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ ภวังค์รัก ค่ายเวอร์ติคัล ฟิล์ม 
17. ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยยอดเยี่ยม ได้แก่ ต้อม ยุทธเลิศ จากภาพยนตร์ ตุ๊กแกรักแป้งมาก
18. นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ ได้แก่ ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร (ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้)
19. นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ ได้แก่ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ (ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้)
20. นักแสดงดาวรุ่งหญิง ได้แก่ โบว์ เมลดา สุศรี จากคาดเชือก
 
21. นักแสดงดาวรุ่งชาย ได้แก่ เบสท์ วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล บท ธนา สุดแค้นแสนรัก 
22. จอมขโมยซีน ได้แก่ เบน ชลาทิศ ตันติวุฒิ คลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรี่ส์ 5 ตอนความลับของมิ้นกับมิว
23. ร้ายได้ใจ ได้แก่ รัดเกล้า อามระดิษ บทอีแย้ม จาก สุดแค้นแสนรัก
24. ละครยอดฮิต ได้แก่ นางชฎา ช่อง 7
25. ละครยอดเยี่ยม ได้แก่ สุดแค้นแสนรัก ช่อง 3
26. ผู้กำกับฯ ยอดเยี่ยม สาขาละครโทรทัศน์ ได้แก่ กฤษณ์ ศุกระมงคล และ อดุลย์ ประยันโต จากละคร สุดแค้นแสนรัก
27. รางวัลละครเวทียอดเยี่ยม ได้แก่ บัลลังก์เมฆ
28. สตาร์เซ็กซี่ ได้แก่ มิน พีชญา วัฒนามนตรี
29. หนุ่มเจ้าเสน่ห์ ได้แก่ ดีเจพุฒ พุฒิชัย
30. สวยทิ่มใจ ได้แก่ เกรซ กาญจน์เกล้า
31. สยามดาราสตาร์ป๊อปปูลาร์หญิง ได้แก่ ญาญ่า อุรัสยา
32. สยามดาราสตาร์ป๊อปปูลาร์ชาย ได้แก่ ณเดชน์ คูกิมิยะ
33. ขวัญใจสยามดาราฝ่ายหญิง ได้แก่ มะนาว ศรศิลป์

ภาพ Kapook.com

ขายดีหนักมาก KFC เปิดแล้วในเมียนมา…

640x390_654338_1435719378


ได้กระแสตอบรับล้นหลาม เมื่อ KFC ตัดสินใจเปิดสาขาแรกใน ประเทศเมียนมา ซึ่งเมื่อมีข่าวออกมา ว่าร้านไก่ทอดชื่อเสียงโด่งดัง จะลงทุนเปิดกิจการที่นี่เป็นสาขาแรก ทำเอาเหล่าชาวพม่า รอคอยที่จะลองลิ้มชิมรสอย่างใจจดใจจ่อกันเลยทีเดียว
โดยหญิงชาวพม่าคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกสาวได้ขอร้องให้เธอพามาที่นี่ หลังจากเห็นข่าว ร้านไก่ทอดเคเอฟซีมาเปิดสาขาแรกในกรุงย่างกุ้งผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งลูกสาวของเธอรู้สึกตื่นเต้นที่จะมาลองชิมรสชาติของไก่ทอดเคเอฟซีเป็นอย่างมาก

เมื่อ 1 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานครึกโครม ร้านไก่ทอดแฟรนไชส์ ชื่อดังสัญชาติอเมริกัน ‘เคนทักกี ฟราย ชิคเก้น’ (เคเอฟซี) บุกกรุงย่างกุ้ง ประเดิมเปิดร้านเคเอฟซีสาขาแรกในประเทศเมียนมาแล้ว เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. โดยเลือกทำเลร้านแรก ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง บนถนน Bogyoke Aung San ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้า กับตลาด Bogyoke Aung San จนทำให้มีชาวเมียนมาแห่เข้าคิวรอซื้อกันอย่างคึกคัก หลังจากเปิดให้บริการเพียง 2 ชม.เท่านั้น สินค้าถึงกลับเกลี้ยงร้านกันเลยทีเดียว…
892415-img.rbqig5.0p

166220

เสียหายไม่แพ้กัน “ตั๊ก” โพสIG เรียกร้องความเป็นธรรม มั่นใจ “โรส” เป็นคนปล่อยภาพ….

photo-48424

จับภาพหน้าจอ 2558-07-02 ณ 00.36.10

เป็นคดีดัง ที่ยังมองไม่เห็นจุดจบ สำหรับสาว “ตั๊ก บงกช” เรื่องภาพหลุดของตนเอง บนเรือยอช์  ล่าสุดตามข่าว ที่คู่กรณีได้ออกมาแจ้งความข้อหา “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ” นั้น
จับภาพหน้าจอ 2558-07-02 ณ 00.36.21

สาวตั๊ก ก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทาง IG ส่วนตัว ถึงเรื่องดังกล่าวว่า การที่ตนโดนปล่อยภาพหลุด ซึ่งหลายภาพเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ส่งผลกระทบต่องานแสดงของตน แถมถูกนำไปตัดต่อล้อเลียน ตนเสียหายน้อยกว่าตรงไหน พร้อมทั้งยืนยันหนักแน่นว่า โรส เป็นผู้ปล่อยภาพดังกล่าว เพราะตนมีพยาน และไม่โทษใครมั่วแน่นอน

ที่มา :อินสตาร์แกรม @takbongkod

เมื่อสาวฟันเหยินคนนี้ อยากปากเล็ก ได้รูป จึงตัดส่วนนี้ออก มาดูกันว่าหลังทำแล้วจะออกมาเป็นยังไง

เมื่อสาวฟันเหยินคนนี้ อยากปากเล็ก ได้รูป จึงตัดส่วนนี้ออก มาดูกันว่าหลังทำแล้วจะออกมาเป็นยังไง
ที่มา http://pantip.com/topic/33857762
สวัสดีค่ะ จขกท.จะมาแชร์ประสบการณ์การจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร 
 
พร้อมรูปรีวิวความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เริ่มจัดฟัน หลังผ่าตัด จนถึงตอนนี้ (4 เดือนหลังผ่าตัด) 
 
ต้องบอกก่อนว่าขั้นตอนการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรของคนอื่นอาจไม่ได้เป็นแบบนี้นะคะ 
 
โดยอาจจะเร็วหรือช้ากว่านี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหมอว่าจะวางแผนการรักษาอย่างไร สำหรับคนไข้แต่ละเคส
 
สำหรับใครที่สงสัยว่าความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกรคืออะไรการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรเป็นยังไง 
 
ต่างกับการจัดฟันธรรมดายังไง สามารถเข้าไปอ่านที่ลิ้งค์ข้างล่างนี่ได้เลยค่ะ
 
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=784
http://www.dental-tmd.com/view.php?m=9&id=39&g=81
 
เคสของจขกท.เป็นเคสขากรรไกรบนคร่อมขากรรไกรล่างค่ะ ดูเผินๆ อาจจะดูเหมือนฟันเหยิน 
 
แต่จริงๆ กระดูกขากรรไกรบนยื่นยาวกว่าปกติ ขณะที่กระดูกขากรรไกรล่างกลับสั้น 
 
ทำให้ฟันบนคร่อมฟันล่าง ใช้ฟันหน้ากัดอะไรไม่ได้ กัดเส้นก๋วยเตี๋ยวยังไม่ขาดเลย เพราะมันไม่สบกัน
 
นอกจากนี้กระดูกขากรรไกรบนที่ยาวผิดปกติยังทำให้ยิ้มเห็นเหงือกมาก หรือที่เรียกว่า Gummy Smile 
 
ซึ่งเป็นที่มาของฉายา นางเหงือก ตอนเด็กๆ 
 
แถ่น แทน แท้นนนน 
รูปพลีชีพรูปแรกมาแล้ว ฮ่าๆ
 
อันนี้เป็นรูปตอนม.4 ค่ะ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ขากรรไกรข้างซ้ายเอียงลงมากกว่าข้างขวาเล็กน้อย 
 
ทำให้คางเบี้ยว ใบหน้าไม่สมมาตร
 
จขกท.มาเริ่มจัดฟันครั้งแรกก็ตอนม.6 ค่ะ (เมื่อ 8 ปีที่แล้ว อย่าคำนวณอายุนะ ฮ่าๆ) 
 
ตอนนั้นคิดว่าตัวเองฟันเหยินเฉยๆ ก็เลยไปพบทันตแพทย์ แต่หลังจากเอ็กซเรย์+พิมพ์ฟัน หมอบอกว่า 
 
"เคสของเราปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฟันแต่อยู่ที่ขากรรไกร จัดฟันอย่างเดียวจะไม่ทำให้เหงือกหายยื่น ต้องผ่าตัดร่วมด้วยนะ" 
 
ฟังแล้วถึงกับเงิบ ตั้งใจมาจัดฟัน ไหงมีผ่าตัดด้วย เห็นเพื่อนจัดฟันอย่างมากก็ผ่าฟันคุด แต่นี่ ผ่าตัดขากรรไกร!!!
 
ตอนนั้นแม่เป็นคนพาไปที่คลินิก หมอเลยให้ไปเรียกแม่เข้ามาฟังด้วย แล้วหมอก็อธิบายว่าตอนนี้อายุยังน้อย 
 
ปัญหาขากรรไกรผิดปกติอาจยังไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก แค่เรื่องความสวยงาม กับการบดเคี้ยวเล็กน้อย
 
แต่พออายุมากขึ้น จะเริ่มมีปัญหามากขึ้น ถามว่า จัดฟันอย่างเดียว ไม่ได้เหรอคะหมอ? ก็ได้คำตอบมาว่า 
 
การจัดฟันไม่ได้ทำให้กระดูกขากรรไกรเปลี่ยน กรณีนี้การจัดฟันเพียงอย่างเดียว จึงไม่ช่วยอะไร (TT__TT)
 
แต่ถ้ายืนยันว่าจะจัดฟัน หมอมีตัวเลือกให้ นั่นคือ 
 
1. จัดฟันโดยไม่ถอนฟัน –ผลการรักษาคือ จะได้ฟันที่เรียงตัวไม่ซ้อนเก แต่ไม่ช่วยให้โครงหน้าเปลี่ยน
 
เหงือกและฟันจะยังยื่นเหมือนเดิม แต่อนาคตถ้าต้องการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดก็สามารถทำได้
 
2. จัดฟันโดยถอนฟัน แต่ไม่ผ่าตัด –ผลการรักษาคือ ฟันจะถูกดึงเข้าไป แต่เหงือกจะยังยื่นเหมือนเดิม 
 
ยิ้มเห็นเหงือกปากอูมเหมือนเดิม และจะไม่สามารถจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดได้อีก 
 
เพราะมีการถอนฟันไปแล้ว วิธีการจัดฟันก็ต่างจากแบบผ่าตัดด้วย
 
3. จัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกร –ผลการรักษาคือ รูปร่างขากรรไกร จะเปลี่ยน การสบฟันดีขึ้น โครงหน้าจะเปลี่ยนไป 
 
ขากรรไกรบนจะหายยื่นจะไม่ยิ้มเห็นเหงือกและปากไม่อูมอีกต่อไป 
 
แค่ได้ยินว่าต้องผ่าตัดก็ช็อคแล้ว แต่ที่ช็อกกว่าคือค่าผ่าตัด 2 ขากรรไกร 80,000 บาทค่ะ 
 
ถือว่าเยอะมากสำหรับเด็กมอปลายอย่างเรา ตอนนั้นได้เงินจากการเขียนนิยาย เลยคิดจะจัดฟัน 
 
แต่เงินจำนวนนี้ก็มากไปอยู่ดี แม่ก็ไม่อยากให้ผ่า บอกเราก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ต้องไปผ่าหรอก 
 
สรุปก็เลยเลือกจัดแบบไม่ถอนฟันค่ะ 
รูปตอนจัดฟันใหม่ๆ (ม.6) เหงือกกับฟันมาเต็มมาก 55 
ส่วนอันนี้รูปตอนปี 1 หลังจากจัดฟันมาประมาณ 1 ปี เวลาหุบปากจะเหมือนอมอะไรไว้
คิ้วก็บาง คางก็สั้น ปากก็ห้อย เหงือกก็เยอะ ชีวิตเศร้าเนอะ 555
เวลาเผลอๆ ก็ไม่ค่อยได้หุบปากอะค่ะ เพราะมันหุบไม่ด้ายยยย 
จัดเสร็จถอดเหล็กตอนปี 3 รวมระยะเวลาในการจัดฟันครั้งแรก 4 ปี
 
ชอบมีคนมาถามว่า นี่จัดฟันมาแล้วเหรอ? จัดแล้วทำไมยังเหยินอยู่?
 
แรกๆ ก็พยายามอธิบาย แต่หลังๆ เริ่มนอยด์ อธิบายไปเค้าก็ไม่เข้าใจ  เลยเปลี่ยนเป็นแค่ยิ้มๆ โชว์เหงือกพอ ฮ่าๆ
 
หลังจากถอดเหล็กออกก็ไม่ได้ทำอะไรกับฟันอีก จนกระทั่งเริ่มมีอาการขากรรไกรค้างและปวดตรงข้อต่อขากรรไกร
 
เวลาอ้าปากกว้างๆ เช่น เวลาหาว เวลาอ้าปากจะงับอาหารจากช้อน จะมีเสียงตรงหน้าหู เสียงเหมือนอะไรหักซักอย่าง
 
ซักพักอาการที่ว่าเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ คำพูดหมอฟันสมัยมอปลายนี่ลอยมาเลย
 
ทีนี้มานั่งหาข้อมูลอย่างจริงจัง ก็เจอว่าอาการที่กำลังเป็นอยู่ แสดงว่าข้อต่อขากรรไกรเริ่มมีปัญหา ฟังดูร้ายแรงแฮะ 
 
ไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยมหิดล ในซอยโยธี ตรงข้ามเซนจูรี่ 
 
(ตามรีวิวในบล็อกของพี่คนนึงที่อีฟไปเจอมาเมื่อนานมาแล้ว) หมอมองปราดเดียวฟันธงเลยว่า ต้องจัดฟันร่วมกับผ่าตัดขากรรไกร 
 
แล้วก็พูดเหมือนหมอที่จัดฟันให้ครั้งแรกเป๊ะ  คือยิ่งอายุมากปัญหาก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น ถ้าไม่ผ่าตัด 
 
เพราะตอนนี้ขากรรไกรลั่นแล้ว แสดงว่ามันไม่ไหวแล้ว  คราวนี้ตัดสินใจจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรค่าาา
 
เอาจริงๆ ไม่ได้กลัวการผ่าตัดนะ แต่กลัวไม่มีตังค์จ่าย 555
 
มาถึงขั้นตอนการจัดฟัน ที่คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 
 
ก่อนอื่นต้องเข้าคิวค่ะ คิวจะมี 2 แบบ คือ ในเวลา กับ นอกเวลา จขกท.เลือกนอกเวลา เพราะสะดวกกว่าและได้คิวเร็วกว่าในเวลา 
 
แต่เสียตรงราคาแพงกว่าในเวลาค่ะ เฉพาะค่าจัดฟัน 50,000 บาท แบ่งจ่าย 2 ครั้งแรก ครั้งละ 7,600 บาท ต่อไปครั้งละ 1,200 บาท 
 
ทีนี้พอถึงคิวแล้ว ต้องไปเอ็กซเรย์ พิมพ์ฟัน คุยกับทั้งหมอจัดฟันและหมอผ่าตัด เพราะหมอทั้งสองคนจะต้องวางแผนการรักษาร่วมกัน 
 
ตอนไปคุยไม่เสียค่าใช้จ่ายนะคะ เสียเฉพาะพวกค่าเอ็กซเรย์ เสร็จแล้วก็ไปเคลียร์ช่องปากเตรียมติดเหล็กได้เลยค่ะ
 
 
Timeline การรักษา
 
มี.ค. 57 ติดเหล็กครั้งแรก ทั้งด้านบนและด้านล่าง กลับมามีเหล็กในปากอีกครั้ง รู้สึกเคืองๆ ไม่ค่อยชิน 
 
มิ.ย. 57 หมอจัดฟันกับหมอผ่าตัดลงความเห็นว่าฟันเข้าที่พร้อมผ่าแล้ว (ฟันจขกท.เรียงตัวจากการจัดฟันครั้งแรก เลยค่อนข้างเร็วค่ะ)
 
รูปตอนจัดฟันได้ 3 เดือน (มิ.ย. 57)  เราว่าจมูกเราก็โด่งอยู่นะ แต่ฟันเราโด่งกว่า ฮาาา
 
ก.ค. 57 หมอเขียนใบส่งตัวให้ไปจองคิวผ่าตัดที่แผนกห้องผ่าตัด เราขอผ่าต้นปี 58 เพราะยังไม่พร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย 
 
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าค่าผ่าตัด 2 ขากรรไกร ประมาณ 200,000 บาท เหงื่อแตกสิครัช 
 
ระหว่างนี้ก็จัดฟันเปลี่ยนลวดไปเรื่อยๆค่ะ ไปทีไรก่อนจะได้เจอหมอ ผู้ช่วยจะให้เลือกสียางทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้ใส่ยาง 
 
หมอใช้แค่ลวดพันสลับไปมา ยกเว้นครั้งแรกที่ติดเหล็ก จนบางทีแอบอยากกระซิบบอกผู้ช่วยหมอว่า ไม่เลือกได้มั้ย เลือกทีไรเก้อทุกที ฮ่าๆ
 
สรุปว่าได้คิวผ่าเป็นวันที่ 21 ก.พ. 58  ช่วงปลายเดือนหมอนัดมาพิมพ์โมเดลฟัน วัดระยะฟัน เตรียมผ่าตัด แล้วก็เขียนใบส่งตัวให้ไปตรวจ
 
ร่างกายที่โรงพยาบาล เวชศาสตร์เขตร้อน จองเลือดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี สำหรับคนที่ร่างกายแข็งแรงน้ำหนักถึงเกณฑ์
 
สามารถเก็บเลือดตัวเองไว้ใช้ได้ค่ะ แต่จขกท.น้ำหนักน้อยเลยต้องจองเลือดคนอื่น  
 
ก่อนถึงวันผ่าตัดก็ต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงค่ะ ห้ามป่วยในช่วงใกล้ผ่าตัดเด็ดขาดแม้แต่ไข้หวัดธรรมดาก็ต้องเลื่อนการผ่าตัดเลยทีเดียว
 
ก่อนหน้านี้จขกท.หาข้อมูลเรื่องการพักฟื้นหลังผ่าตัดด้วยการอ่านรีวิวในกรุ๊ปเฟสบุ๊กที่ชื่อ "จัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร"  มีทั้งข้อมูลเรื่อง
 
ของใช้ที่จำเป็นระหว่างพักฟื้น อาหาร วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ได้ความรู้จากที่นี่เยอะมาก  แล้วยังได้เพื่อนใหม่อีกหลายคนด้วย พี่ๆ ในกรุ๊ปน่ารักมาก 
 
แอดเฟสบุ๊คไปถามอะไรก็ตอบหมดไม่มีกั๊ก (ขอบคุณจากใจค่ะ)
รูปตอนไปพิมพ์ฟัน อย่าตกใจ ยิ่งใกล้ผ่าสภาพหน้าจะยิ่งแย่ (เกี่ยวมั้ย 55) คิดว่าหมอก็คงจะสะพรึงกลัวอยู่ไม่น้อย
นี่โมเดลฟันเก๊าเอง
 
20 ก.พ. 58  มาแอดมิทที่ชั้น 10 โรงพยาบาลทันตกรรม ตอนประมาณสี่โมงเย็น จองห้องพิเศษเอาไว้
 
ค่าห้องคืนละ 2,000 บาทค่ะ (แต่ไม่ใช่ห้องแพงที่สุดนะคะ มีห้องพิเศษ VIP อีก)
 
บรรยากาศในห้องสะดวกสบายตามในรูปเลยค่ะ
พรีเซ็นเตอร์กับมุมโต๊ะอาหารติดหน้าต่าง 
ในห้องมีตู้เย็น ไมโครเวฟให้ด้วย  ใกล้กับเตียงคนไข้มีโซฟาเบดสำหรับญาตินอนเฝ้า 
เตียงคนไข้สามารถปรับระดับได้ด้วยปุ่มข้างเตียง 
เบื่อๆ ก็เปิดทีวีดูได้ บางทีก็รู้สึกว่ากำลังอยู่ในโรงแรม มากกว่าโรงพยาบาล 555
 
หลังจากเข้าห้องมา ก็จะมีพยาบาลมาอธิบายทุกอย่างที่เราจำเป็นต้องรู้ รวมถึงสร้างความเข้าใจให้กับญาติด้วยว่า
 
อาการหลังผ่าตัดของคนไข้จะเป็นยังไง ไม่ต้องตกใจ 
 
เพราะญาติส่วนใหญ่จะตกอกตกใจเมื่อเห็นสภาพคนไข้หลังผ่าตัด ส่วนข้าพเจ้ามีเวลาสวาปามอาหารได้ถึงก่อน 5 ทุ่ม
 
หลังจาก 5 ทุ่ม ต้องงดน้ำ งดอาหาร T^T อาบน้ำ สระผม เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะทำไม่ได้ไปอีกหลายวัน
 
เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคนไข้แล้วมาเซลฟี่เป็นที่ระลึก
 
ก่อนนอนได้ยานอนหลับครึ่งเม็ด ตอนแรกก็ตื่นเต้นนอนไม่หลับ แต่ซักพักพอยาออกฤทธิ์ก็หลับสบาย
ขุ่นแม่แอบถ่าย นี่เพิ่งรู้ว่าเวลานอนหน้าตาน่าเกลียดน่าชังขนาดนี้ 555
 
ตอนเช้าพยาบาลมาปลุกตอน 06.30 น. 
 
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีเขียวสำหรับผ่าตัด  No underwear นะคะจุดนี้ แล้วก็ต้องถอดเครื่องประดับทุกอย่าง
 
คือต้องตัวเปล่าจริงๆ ได้ยานอนหลับอีกครึ่งเม็ด (แต่รอบนี้มันไม่ได้ทำให้ง่วงเล๊ย)
 
พอถึงเวลา 07.30 น. พยาบาลก็มาพร้อมกับรถเข็นแบบเตียง แล้วก็ทายาชาเนื้อครีมที่หลังมือให้ เวลาเจาะสายน้ำเกลือจะได้ไม่เจ็บ
 
จากนั้นก็แค่ขึ้นไปนอน แล้วพยาบาลก็เข็นพาไปห้องผ่าตัด ข้างในห้องผ่าตัด อากาศหนาวมาก 
 
ซักพักก็มีคนมาเจาะสายน้ำเกลือให้ โดยก่อนเจาะ ใช้สเปรย์อะไรไม่รู้พ่นใส่หลังมือ
 
คือมันเย็นมากจนชา ตอนเจาะนี่ไม่เจ็บเลยค่ะ ถามว่ากลัวมั้ย ไม่นะ ตื่นเต้นมากกว่า
 
คืออยากรู้ว่า โดนยาสลบแล้วจะเป็นยังไง แต่เตรียมใจไว้ว่าหลังจากฟื้นมา ต้องลำบากแน่ๆ
 
เพราะเกือบทุกคนที่จขกท.ไปอ่านรีวิวมาบอกว่า คืนแรกทรมานมาก 
 
พอเจาะสายน้ำเกลือเสร็จหมอก็เอาเข็มยามาเลยค่ะ เราก็แบบเหย เอาแล้วๆๆๆ 
 
อยากจะบอกว่าตอนเร่งยานี่มันปวดได้ใจจริงๆ ปวดแบบอยากจะร้องออกมาดังๆ
 
แต่ปวดแค่ประมาณ นับ 1 ถึง 3 อะค่ะ เพราะหมอเอาหน้ากากเหมือนหน้ากากออกซิเจนมาครอบจมูก
 
จำได้ว่าหายใจเข้าแค่ฟืดเดียว ฟืดที่สองสติก็ดับไปเลยค่ะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก
 
 
รู้สึกตัวอีกทีตอนได้ยินเสียงพยาบาลเรียกชื่อ สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา 
 
ความรู้สึกเหมือนเพิ่งหลับไปแป๊บเดียว ยังง่วงๆ อยู่ อยากนอนต่อ 
 
พอเห็นว่าเราตื่นแล้ว พยาบาลก็พากลับห้องพัก เริ่มผ่าตัดตอนแปดโมง ออกมาตอนบ่ายสอง รวมใช้เวลา 6 ชั่วโมง
 
กลับมาถึงห้องมีอาการหนาวสั่น ฟันกระทบกันดังกึกๆ  จนพยาบาลต้องหาผ้าห่มมาห่มให้หลายๆผืน
ในรูปหลับตาอยู่ แต่จริงๆ ไม่ได้หลับนะคะ 
 
แค่รู้สึกง่วงๆ ลืมตาไม่ขึ้น แต่ยังได้ยินเสียง รับรู้ทุกอย่าง ลืมตาขึ้นมาดูคนนู้นคนนี้บ้างเป็นระยะๆ
นี่คือสภาพหน้าหลังผ่าตัดแค่ไม่กี่ชั่วโมง หน้าบวม ปากบวมเป็นไส้กรอกเลย ฮ่าาาา
 
สายยางที่โยงออกมาจากปาก 2 เส้น คือสายเดรนเลือด เอาไว้ดูดเลือดที่ไหลจากแผลออกมาใส่ถุงกลมๆ 
 
เหมือนลูกบอลที่ห้อยอยู่ข้างตัว เผื่อใครสงสัยว่าหลังผ่าตัดพูดได้เลยหรือเปล่า ตอบว่า พูดได้เลยค่ะ แต่จะไม่ชัด
 
เพราะปากบวม หน้าตึง คำแรกที่พูดคือ 'น้ำ' ค่ะ พยาบาลเอาน้ำให้ดื่ม โดยใช้ไซริงฉีดเข้าปาก 
 
หลอดเดียวไม่พอ ขออีกจนพยาบาลบอกพอก่อนเนาะ บางคนอาจจะรู้สึกเจ็บคอจากการใส่ท่อช่วยหายใจตอนผ่าตัด
 
แต่เราไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ รู้แต่หิวน้ำมาก ซักพักมีอาหารมื้อเย็นมาเสิร์ฟ อาหารที่ว่าคือ น้ำข้าว น้ำซุปใส น้ำตะไคร้ แล้วก็นม
 
พอเห็นก็ขอกินเลยค่ะ รู้สึกหิวมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต แต่พยาบาลบอกว่า วันแรกยังไม่อยากให้กินอะไร
 
เพราะกระเพาะกับลำไส้ยังทำงานไม่ปกติ แถมบอกว่า ไม่เคยเจอคนไข้ขอกินอาหารหลังผ่าตัดวันแรกเลย
 
ส่วนใหญ่กินอะไรไม่ลง เรานี่กรีดร้องในใจว่า หนูหิวมากกกกค่ะพี่ สรุปก็อดไปนะคะ ดื่มได้แค่น้ำเปล่า ฮือออ
 
อาการข้างเคียงหลังผ่าตัดอย่างแรกคือ อาเจียนเลือดออกมาค่ะ  คือเกือบทุกรอบที่ดื่มน้ำ จะอาเจียนเป็นลิ่มเลือดออกมา
 
พยาบาลบอกว่าเป็นเลือดจากการผ่าตัดที่ไหลลงท้อง อาเจียนอยู่ประมาณ 5-6 รอบได้ ถึงจะหมด
 
ถามว่าเจ็บแผลหรือปวดไหม? ไม่เจ็บเลยค่ะ มันชา เพราะตอนผ่าตัด เส้นประสาทจะได้รับการกระทบกระเทือน
 
แต่ละคนจะมีอาการชาต่างกัน แล้วแต่ว่าเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนขนาดไหน
 
ส่วนใหญ่ชาที่ปาก และคาง บางคนชาตั้งแต่ใต้ตาลงมาเลย ของเราปากไม่ชา คางไม่ชา แต่ชาที่เหงือกค่ะ
 
พยาบาลจะคอยถามว่า ให้คะแนนความปวดเท่าไหร่ 0-10 
 
0 คือไม่ปวดเลย 10 คือปวดมากที่สุด จริงๆ ไม่ปวดหรอก แต่บอกไปว่า 2 กลัวเดี๋ยวเค้าไม่ให้ยา 
 
ซักพักพยาบาลมาเช็ดตัวเช็ดหน้าให้ ตอนนั้นแหละค่ะที่ความปวดมาเยือน
 
คือถ้าอยู่เฉยๆ มันไม่ปวดเลยนะ แต่พอพยาบาลเอาผ้าชุบน้ำมาแตะโดนคางเท่านั้นแหละ
 
สะดุ้งเลยค่ะ มันปวดจี๊ดอะ โดยเฉพาะตรงมุมกรามที่หมอตัดกระดูกออกไปกับตรงคาง เลยขอพยาบาลเช็ดหน้าเอง 
 
ผลข้างเคียงอีกอย่างคือ พอตกกลางคืนจะมีอาการคัดจมูกค่ะ ตอนแรกก็รูเดียว ซักพักคัดสองรู หายใจไม่ออก
 
ต้องบอกพยาบาล เค้าจะให้ยาหยอด หยอดแล้วก็โล่ง นอนได้ หลับสบายในคืนแรก
 
วันที่ 2 นี่แหละที่เด็ด ตื่นมาส่องกระจก หน้าบวมมากกกก 
ตามรูปเลยค่ะ ใครไม่รู้คงนึกว่าโดนรุมตื้บมา 555 แม่บอกเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ 
 
เป็นวันที่บวมสุดแล้วค่ะ หลังจากนี้จะเริ่มลดบวมลงเรื่อยๆ  ผ้าสีม่วงๆ คือถุงใส่เจลประคบเย็น
 
หลังจากออกจากห้องผ่าตัด พยาบาลก็ใส่ให้เลยค่ะ ประคบเย็นตลอดเวลา ที่โรงพยาบาลมีให้ยืม 1 คู่
 
ต้องซื้อมาเองอีก 1 คู่ เอาไว้เปลี่ยน วันนี้ได้รับอนุญาตให้กินอาหารแล้ว ก็จัดเต็มเลยค่ะ 
 
ใช้ไซริงฉีดกินเอง เกลี้ยงทุกอย่าง แต่หลังกินอาหารทุกครั้งต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาบ้วนปากของโรงพยาบาลผสมน้ำ 
 
กับน้ำเกลือ Normal Saline เพื่อไม่ให้แผลสกปรกแล้วก็ติดเชื้อค่ะ
วันที่ 3 เริ่มบวมลดลงนิดหน่อย ตกบ่ายหมอมาดูแผล เห็นว่าเลือดหยุดไหลแล้ว 
 
เลยให้ไปถอดสายเดรน วิธีเอาออกทำยังไงน่ะเหรอ หึหึ 
 
หมอก็นับ 1..2.. แล้วดึงค่ะ ดึงแบบพรวดเดียวออก เจ็บจี๊ดเบาๆ แต่พอทนได้ เอาออกแล้วก็โล่งสบายขึ้น
 
แต่ที่ยังอยู่คือ แผลที่มุมปากค่ะ แผลนี้เกิดจากตอนผ่าตัด หมอต้องถ่างปาก แล้วคิดดูว่า 6 ชั่วโมง 
 
มันก็ต้องมีฉีกกันบ้าง สำหรับเราแผลมุมปากเจ็บที่สุดแล้วในการผ่าตัดครั้งนี้ ถ้าไม่นับตอนฉีดยาก่อนผ่าตัด
 
เตรียมวาสลีน ยาไตรโนโลน มาไว้ทาแผลมุมปาก ตามคำแนะนำของผู้มีประสบการณ์ผ่าตัดมาก่อน
 
แต่ปรากฏว่า 3 วันแรกที่ทาไป แผลมันไม่ดีขึ้น ยาที่ทาทำให้สภาพแผลเปียกเยิ้มตลอด แล้วพอเช็ดทำความสะอาด
 
แผลที่เหมือนกำลังจะตกสะเก็ดก็ลอกออก แสบสะท้านเลยล่ะ
 
บังเอิญคืนที่ 3 หายาไตรโนโลนไม่เจอ วาสลีนก็ไม่อยากทา มันเยิ้ม เลยเอาลิป Medex ของ Blistex ที่พกติดตัวมาด้วยมาทา
 
ทาแล้วจะรู้สึกเย็นๆ ดี ทำให้ไม่แสบ ปรากฏเช้ามา เหยยยยย แผลดูดีขึ้น ไม่เปียกเยิ้มเหมือนตอนแรก
 
วันที่ 4 หมอเข้ามาตรวจตอนเช้า ถามว่า อยากให้เลือดไหม เพราะตอนผ่าตัดเสียเลือดมาก 
 
อาการตอนนี้คือ ให้ก็ได้ ไม่ให้ก็ได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหว หมอจะให้เลือด
 
อิฉันก็ตอบไม่ต้องคิดเลยค่ะว่า ไหวค่ะหมอ สรุปหมอบอก ถ้าไหว หมอจะให้กลับบ้านได้ 
 
(จริงๆ หมอบอกกลับได้ตั้งแต่วันที่ 3 แล้วค่ะ แต่แม่อยากให้อยู่ต่อ เพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรขึ้นมาตอนอยู่ไกลหมอ แม่กลัว)
สายๆ ก็ไปอาบน้ำ สระผมเป็นครั้งแรกหลังจากผ่าตัด โล่งหัว สบายตัวมากกกก 
 
หน้ายังบวมอยู่ แต่ขนาดของปากลดลงอย่างเห็นได้ชัด แฟนบอก หน้าเหมือนกบ 555
 
หลังจากนี้ก็ไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายก่อนออกจากโรงพยาบาล
 
ค่าผ่าตัด + ค่าห้อง = 158,000 บาท มีเศษนิดหน่อย ตัวเบาเลยล่ะฮะท่านผู้ชม
 
หมอทำอะไรให้บ้าง?
 
ตอนหมอมาเยี่ยม หมอเล่าให้ฟังว่า เคสนี้ยากและทำเยอะ ขากรรไกรบนผ่าเป็น 3 ชิ้น ยกขึ้น 8 มม. และถอยเข้า 4 มม.
 
แก้ขากรรไกรเอียงด้วยการยกข้างซ้ายขึ้นมากกว่าข้างขวา ส่วนขากรรไกรล่าง ก็ตัดเป็น 3 ชิ้น แล้วเลื่อนเข้าให้พอดีกับ
 
ขากรรไกรบน ซึ่งทำให้หน้าสั้นลง และกลม ประกอบกับจขกท.คางสั้นอยู่แล้ว หมอเลยตัดเอากระดูกมุมกราม
 
มาเสริมคางให้ แต่คางเราเบี้ยวนิดนึง หน้าไม่สมมาตรอยู่แล้ว จมูกเบี้ยว คางเบี้ยว 
 
คิดว่าเพราะนังขากรรไกรที่โตผิดรูปผิดร่างนี่แหละ ที่พาอย่างอื่นเบี้ยวไปด้วย
 
แต่เรื่องคางหมอบอกแก้ได้ ตอนผ่าเอาเพลทออก
ภาพเอ็กซเรย์ 
ซ้าย: หลังผ่าตัดวันที่ 3 
ขวา: ก่อนผ่าตัด
 
ออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับไปอยู่หอ การปฏิบัติตัวก็เหมือนตอนอยู่โรงพยาบาล คือต้องดูแลเรื่องความสะอาดในปาก
 
พยาบาลกับหมอย้ำว่าให้ลุกเดิน ออกกำลังกายบ่อยๆ จะได้หายไวๆ
 
พอกลับมาอยู่บ้านมีอาการข้างเคียงคือ ปวดหูตอนกลางคืนค่ะ
 
แก้ไขด้วยการใช้เจลประคบเย็นโปะไว้ตลอด แล้วก็กินยาแก้ปวด ประมาณ 3-4 วันอาการที่ว่าก็หายไปเอง
 
อ้อ อีกอย่าง หมอห้ามเคี้ยวเด็ดขาดเป็นเวลา 6 สัปดาห์ค่ะ ช่วงแรกต้องกินอาหารเหลวใสอย่างเดียว 
 
พอครบ 2 สัปดาห์ ตัดไหมแล้ว ก็กินอาหารเหลวได้ 
 
ตอนตัดไหม ก็เจ็บนะ แต่แบบพอทนได้ หมอมือเบามาก 
 
หลังจาก 6 สัปดาห์เริ่มเคี้ยวอาหารอ่อนๆได้ แต่ยังห้ามพวกอาหารเหนียวๆ แข็งๆ ต้องรอให้กระดูกประสานกันก่อน
 
ความเศร้าคือ กว่าจะเคี้ยวได้น้ำหนักข้าพเจ้าก็ลดฮวบลงไป เกือบ 5 กิโล จากผอมอยู่แล้ว กลายเป็นผอมมากกกก
 
อาการหลังผ่าตัดทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละค่ะ ทีนี้มาดูรูปพัฒนาการความบวมกัน
ใบหน้าจะค่อยๆ ลดบวมจนประมาณเดือนที่ 6 ถึงจะเป็นหน้าจริง หมอบอกยังไงก็จะมีแก้มนะ เพราะหน้าสั้นลง 
 
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราค่ะ ชอบมีแก้มอยู่แล้ว มันดูเด็ก อิอิ
หลังผ่าตัด 3 สัปดาห์
ช่วงแรกๆ ยังยิ้มเห็นฟันไม่ค่อยได้ เพราะมันยังบวมๆ ตึงๆ 
หลังผ่าตัด 1 เดือน
หลังผ่าตัด 2 เดือน
หลังผ่าตัด 3 เดือนครึ่ง
และปัจจุบัน คือหลังผ่าตัด 4 เดือนค่ะ
 
ตอนนี้ยังต้องจัดฟันต่อ ให้ฟันเข้าที่ แล้วพอถึงเวลากระดูกสมานกันดีแล้ว หมอจะนัดผ่าเพลทไทเทเนียม
 
ที่ใช้ยึดกระดูกไว้ด้วยกันออก ส่วนฟัน เมื่อเข้าที่หมอจะถอดเหล็กออกให้ และใส่รีเทนเนอร์แทนค่ะ
 
หลังผ่าตัดรู้สึกยังไง?
 
โอย รู้สึกดีมากกกกกค่ะ เหมือนได้เกิดไหม่ 555 
 
การเคี้ยวดีขึ้น เวลาเคี้ยว ข้าวไม่กระเด็นออกจากปาก เพราะหุบปากได้แล้ว (สิ่งนี้ที่ไฝ่ฝันมานาน)
 
ขากรรไกรไม่ลั่นให้ปวดใจแล้ว หน้าที่เปลี่ยนไปแบบญาติจำไม่ได้ ทำให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
 
เวลายิ้ม เหงือกไม่ออกมาสวัสดีชาวโลกแล้ว สามารถถ่ายรูปมุมข้างแบบดูแล้วไม่เป็นแก้วหน้าม้าได้แล้ว ฮ่าาา
 
มีหลายคนเห็นรูปในเฟสบุ๊กแล้วเข้าใจว่าเราไปศัลยกรรมความงามมา 
 
จริงๆ การผ่าตัดขากรรไกรก็คือการศัลยกรรมอย่างหนึ่ง แต่มันเป็นการศัลยกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาความผิดปกติค่ะ 
 
การที่หน้าตาดูดีขึ้น มันคือผลพลอยได้ จริงๆ เราคิดว่าหน้าใหม่นี้คือหน้าปกติที่มันควรจะเป็น
 
บางคนไลน์มาถามว่าไปทำอะไรมา ทำไมหน้าเล็กลง ทำที่ไหน จะไปทำบ้าง 
 
ก็อธิบายไปว่า แบบที่เราทำคือสำหรับคนที่มีปัญหาขากรรไกรค่ะ 
 
ถ้าไม่ได้มีปัญหาที่ว่า แต่อยากกรามเล็กลง จมูกโด่ง หน้าเรียว ฯลฯ ต้องทำศัลยกรรมความงาม ซึ่งทำโดยหมอคนละด้านกัน
 
สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาขากรรไกร และกำลังตัดสินใจว่าจะทำดีหรือเปล่า แนะนำให้ปรึกษาหมอค่ะ
 
ต้องเป็นหมอเฉพาะทางด้วยนะคะ เพราะไม่ใช่หมอฟันทุกคน จะจัดฟันแบบร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรได้
 
ทางที่ดี ควรจะไปปรึกษาหมอหลายๆคนค่ะ 
 
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวเราต้องเป็นคนตัดสินใจเอง 
 
ที่มารีวิวครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการเชิญชวนให้ทุกคนทำตามนะคะ แต่แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเอง
 
การผ่าตัดขากรรไกร เป็นการผ่าตัดใหญ่ ยิ่งถ้าผ่า 2 ขากรรไกร ต้องดมยาสลบ ซึ่งมีผลข้างเคียงที่เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อดมยาไปแล้ว 
 
แบบเบาหน่อยก็คือ ตื่นมาแล้วเวียนหัว อาเจียน เจ็บคอจากการใส่ท่อช่วยหายใจ
 
แต่ถ้าหนักคือ ไม่ตื่นเลย >>> เสียชีวิตค่ะ
 
ข้อมูลเหล่านี้ เจ้าหน้าที่จะแจ้งเรา และให้เราเซนรับทราบและยินยอมก่อนทำการผ่าตัด 
 
ซึ่งหมายความว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น ญาติจะไปเรียกร้องอะไรไม่ได้ นอกจากนี้ ผลข้างเคียงอีกอย่างคืออาการชาค่ะ
 
เท่าที่ทราบมา ชาเกือบทุกคน ต่างกันตรงที่จะชาตรงส่วนไหน บางคนชาเกือบทั้งหน้า และใช้เวลานานกว่าจะหายชาทั้งหมด
 
บางคนชาไม่หายตลอดชีวิตก็มี ซึ่งถ้าส่วนที่ชาไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันก็โอเค
 
แต่ถ้าเป็นส่วนที่จำเป็นต้องใช้งาน อย่างริมฝีปาก ก็คงเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย ก่อนตัดสินใจ อยากให้หาข้อมูลเยอะๆ นะคะ
 
สุดท้าย (จะจบละๆ ฮ่าๆ) อยากเล่าเรื่องความประทับใจ 
 
นอกจากความสะอาด สะดวกสบาย ของห้องพักที่โรงพยาบาลแล้ว พยาบาลที่แผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาลทันตกรรม ม.มหิดล
 
น่ารักมากกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) ดูแลดีมาก กดปุ่มเรียกปุ๊บ เข้ามาปั๊บ ใส่ใจคนไข้ขั้นสุด
 
ไม่ได้จ้างพยาบาลพิเศษ แต่ก็เหมือนมีพยาบาลอยู่ด้วยตลอด พี่พยาบาลก็พูดจาน่ารักเป็นกันเอง 
 
ชวนคุยไม่ให้เครียด แถมพาออกไปเดินเล่นชมวิวด้วย ขอชื่นชมและขอบคุณมากๆ ที่คอยดูแลค่ะ <3
 
หวังว่าข้อมูลที่สาธยายมาจะเป็นประโยชน์นะคะ  บัยยย (จบดื้อๆ 555)